TXP และ TXC

ด้วยหลักการที่ว่าโทรศัพท์แต่ละเครื่องไม่ได้อยู่ใกล้เสาหรือสถานีฐาน (Cellsite) ทุกเครื่องแม้แต่เครื่องที่เราใช้งานเองก็ตามบางครั้งก็ต้องเดินทางไปใหนมาใหนเราอาจจะอยู่ใกล้หรือใกลสถานีฐานได้ตลอดเวลา จะเปรียบเทียบหลักการคร่าวๆเกี่ยวกับการรับและส่งสัญญาณระหว่างโืทรศัพท์มือถือกับสถานีฐานและสถานีฐานกับโทรศัพท์มือถือ โดยการเอานักฟุตบอล 2 คนมาเปรียบเทียบกัน โดยยกตัวอย่างที่รูปที่ 1.

สายตานักฟุตบอลคนที่ 1 จะต้องรับหรือมองเห็นนักฟุตบอลคนที่ 2 ว่าอยู่ในระยะห่างจากตัวนักฟุตบอลคนที่ 1 ในระยะเท่าใด สมมติว่านักฟุตบอลคนที่ 1 มองเห็นนักฟุตบอลคนที่ 2 ในระยะประมาณ 25 เมตร ดังนั้นนักฟุตบอลคนที่ 1 จะต้องใช้กำลังขาเตะฟุตบอลให้ไปถึงนักฟุตบอลคนที่ 2 ให้ได้ในระยะ 25 เมตร ถ้านัีกฟุตบอลคนที่ 1 เตะฟุตบอลเบาเกินไปลูกฟุตบอลก็ไปไม่ถึงหรือเตะแรงเกินไปลูกฟุตบอลก็เกินระยะจากนักฟุตบอลคนที่ 2 ยืนอยู่ ก็สรุปว่าในการกะระยะของการรับภาพกับการเตะฟุตบอลไม่สมดุลกัน ดังนั้นถ้าเปรียบเหมือนโทรศัพท์มือถือ ที่เราใช้งานจะต้องรับสัญญาณจากเครือข่ายให้ได้ก่อนและตรวจสอบระดับความแรงของสัญญาณจากเครือข่ายหรือ RX  Level ได้ ซึ่งเปรียบเสมือนนักฟุตบอลคนที่ 1 เป็นโทรศัพท์มือถือ ที่มองเห็นภาพนักฟุตบอลคนที่ 2 และนักฟุตบอลคนที่ 2 ก็เปรียบเสมือนสถานีฐาน และมาดูรูปที่ 2. สมมติว่านักฟุตบอลคนที่ 1 เห็นนักฟุตบอลคนที่ 2 ยืนอยู่ห่างแค่ระยะ 10 เมตรดังนั้นนักฟุตบอลคนที่ 1 จะต้องกะระยะของการส่งฟุตบอลและใช้กำลังขาเตะฟุตบอลให้ได้ระยะ 10 เมตรเช่นเีดียวกัน การใช้กำลังขาเตะฟุตบอลก็เหมือนกับการที่ PA หรือ Power Amp ของโทรศัพท์มือถือส่งกำลังส่งออกไปให้ถึงสถานีฐานนั่นแหละ ก็พอสรุปได้พอสังเขปว่า การที่โทรศัพท์เครื่องใดเครื่องหนึ่งที่กำลังใช้งานอยู่ตลอดเวลาโทรศัพท์จะทำการตรวจสอบระดับความแรงของสัญญาณที่รับมาจากเครือข่ายตลอดเวลา ถ้าโทรศัพท์อยู่ใกล้เสาสัญญาณที่หน้าจอโทรศัพท์ก็จะมีความแรงจนขีดสัญญาณสูงสุด ในทางกลับกันถ้าโทรศัพท์อยู่ห่างจากสถานีฐานมากๆขีดแสดงความแรงสัญญาณที่หน้าจอโทรศัพท์ก็จะมีขีดน้อยลงหรือไม่มีเลยก็ได้ ซึ่งขีดแสดงระดับความแรงสัญญาณที่หน้าปัดโทรศัำพท์เรียกว่า RSSI  หรือ Recieve Signal Strength Indicator สำหรับเครื่องที่มีขีดระดับสัญญาณสูงสุดแสดงว่าโทรศัพท์อยู่ใกล้สถานีฐานดังนั้น PA ของโทรศัพท์เครื่องนั้นก็จะส่งกำลังส่งในระดับที่ต่ำ แต่สำหรับเครื่องที่มีขีดระดับสัญญาณที่ต่ำ PA ของโทรศัพท์เครื่องนั้นจะต้องส่งกำลังส่งแรงมากเพื่อให้กำลังส่งไปถึงสถานีฐานที่อยู่ห่างออกไป สำหรับโทรศัพท์ที่อยู่ห่างเครือข่ายมากๆ โดยเฉพาะเครื่องที่อยู่ตามชนบทจะสังเกตว่าเครื่องโทรศัพท์จะกินแบตเตอรี่มากกว่าปกติเพราะระดับการรับสัญญาณที่อ่อนเครื่องอยู่ไกลจากสถานีฐานมากดังนั้น ต้องใช้กำลังส่งมากกว่าปกติ และในวงจรโทรศัพท์มือถือ PA หรือ Power Amplifier เป็นอุปกรณ์ที่กินกระแสมากที่สุดเมื่อมีการโทรเข้าและโทรออก สำหรับวงจรตรวจสอบระดับสัญญาณจะอยู่ใน Hagar ประกอบด้วยวงจร PWC (Power Control) และวงจร RX Filter Calibration  ดูรูปด้านล่าง

                                   ไดอะแกรม TXP และ TXC

สำหรับ TXP ทำหน้าที่เปิดวงจร PWC หรือวงจร Power Control มาจาก CPU  และ TXC ทำหน้าที่ปรับระดับแรงดันไฟสำหรับวงจร PWC ซึ่งมาจาก วงจร DAC (Digital To Analog Converter) ใน COBBA ทั้ง TXP และ TXC จะต้องทำงานสัมพันธ์กันถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งเสียวงจร PWC ใน Hagar จะไม่สามารถจ่ายแรงดันไฟ VPCTRL ให้กับ PA ในระดับที่แตกต่างกันได้ แต่ก็ยังมีอีกวงจรที่สำคัญมากๆในการควบคุมระดับกำลังส่งของ PA ก็คือวงจร DETECT หรือ วงจรตรวจสอบระดับกำลังส่งซึ่งเมื่อ PA ส่งกำลังส่งในรูปแบบของสนามแม่เหล็กผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า Direct Coupler และ Direct Coupler จะทำการจ่ายแรงดันไฟผ่านวงจร DETECT กลับเข้าไปที่วงจร PWC ใน Hagar อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นพอสรุปได้ว่าการที่ PA จะส่งกำลังส่งออกไปได้นั้นภาครับจะต้องทำการตรวจสอบระดับความแรงสัญญาณจากสถานีฐานที่ส่งมา และวงจร RX Filter Calibration จะทำการกำหนดระดับสัญญาณที่จะส่งออกจาก PA ไปยังสถานีฐาน โดยมี TXP และ TXC จาก CPU และ COBBA ทำหน้าที่กำหนดระดับกำลังส่งไปยังวงจร PWC ใน Hagar โดยที่วงจร PWC จะทำหน้าที่จ่ายระดับแรงดันไฟในระดับที่แตกต่างกันให้กับ PA เพื่อให้ PA นำเอาสัญญาณ IQ  หรือ ข้อมูลส่งไปให้ถึงสถานีฐานอย่างต่อเนื่อง

              ลายวงจรที่ตัดต่อเพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง TXP กับ TXC